คาร์พาส (CarPAS) คือผู้ให้บริการขายและจัดส่งอะไหล่รถยนต์แบบส่งด่วน!สำหรับอู่รถยนต์ซึ่งเป็นสมาชิก คาร์พาสตอบโจทย์ครบวงจร มีอะไหล่ครบพร้อมส่งเร็ว!!! มีอะไหล่พร้อมส่งให้ถึงอู่สมาชิกภายใน 3 ชม. เพื่ออู่สามารถบริการซ่อมได้รวดเร็ว งานเสร็จไว้ ลูกค้าพอใจในบริการงานซ่อม โดยเฉพาะอะไหล่ช่วงล่าง ระบบเบรก ไส้กรองทุกประเภท สายพาน และน้ำมันเครื่อง นอกจากอะไหล่กลุ่มส่งด่วนซึ่งเป็นบริการหลักสำหรับอะไหล่ซึ่งอู่ใช้ประจำของคาร์พาสแล้ว คาร์พาสยังมีอะไหล่ที่หลากหลายจำนวนมาก สามารถค้นหาอะไหล่ได้ง่ายบนแอปพลิเคชั่น CarPAS บนมือถือ หรือผ่าน www.CarPAS.co.th นอกจากอะไหล่ส่งด่วน อะไหล่ที่หลากหลาย เช่น หม้อน้ ปั๊มน้ แร็คพวงมาลัย ยังสามารถส่งแบบปกติไม่เกิน 1-2 วัน นอกจากนั้นยังให้บริการรวมถึงอะไหล่กลุ่มพิเศษ เช่น อะไหล่แท้ ไฟหน้าไฟท้าย ปะเก็น ซึ่งสามารถสั่งได้แบบพรีออร์เดอร์ คาร์พาส เราอยู่ใกล้อู่สมาชิกพร้อมให้บริการตอบโจทย์อู่ด้วยอะไหล่ครบ! ส่งไว!
• ข้อจํากัดความรับผิดชอบ ทางเว็บไซต์ www.carpas.co.th จะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ รวมถึง ความเสียหาย สูญเสียและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม โดยเฉพาะเจาะจง โดยบังเอิญ หรือ เป็นผลสืบเนื่องที่ตามมา อาการบาดเจ็บทางร่างกาย หรือ ค่าใช้จ่ายอันเกิดขึ้นจากอาการบาดเจ็บของลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานหรือบุคคลที่สามคนใดก็ตาม (รวมถึงผู้ติดตามของลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานด้วย) รวมถึงผลลัพธ์อันเนื่องมาจากการเข้าใช้งานในเว็บไซต์ของเรา ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม ทั้งข้อมูลใดๆที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานหรือข้อมูลผู้ติดตามของลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งาน ตลอดจนเนื้อหาและข้อมูลต่างๆที่มีการส่งผ่านระบบของเรา กล่าวให้เฉพาะเจาะจงลงไปคือ ทางเว็บไซต์ www.carpas.co.th หรือ บุคคลที่สามใดๆ หรือ ข้อมูล เนื้อหาที่มีการนําเสนอขึ้นมา จะไม่ต้องรับผิดชอบ ทางกฎหมายใดๆ ต่อลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานหรือต่อบุคคลอื่นใด ทั้งต่อบริษัทใดๆก็ตามที่ต้องประสบกับความสูญเสีย เกิดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม การบาดเจ็บทางร่างกายหรือค่าใช้จ่าย อันเกิดขึ้นจากความล่าช้า ความไม่ถูกต้อง ความผิดพลาด หรือ การกระทําใดๆอันเกิดจากความเชื่อถือในเนื้อหา โปรแกรมส่งเสริมการตลาดอื่นๆ รวมถึงโปรแกรมรับผลตอบแทนอื่นๆ ของทางเว็บไซต์ www.carpas.co.th ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ ของบริษัท คาร์ พาร์ท แอนด์ ซัพพลาย จำกัดเท่านั้น บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง ยกเลิกโปรแกรมทั้งเป็นการชั่วคราวหรือถาวรในทุกๆ โปรแกรมโดยไม่ต้องแจ้งลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานล่วงหน้า
• การชดเชยค่าเสียหาย ผู้ใช้งานยอมรับที่จะชดเชยค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการละเมิดเงื่อนไขและข้อกําหนดในการให้บริการหรือการกระทําอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับบัญชีผู้ใช้งานของลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานอันเนื่องมาจากการละเลยไม่ใส่ใจ หรือการกระทําที่ผิดกฎหมาย และผู้ใช้งานจะไม่ยึดให้ทางเว็บไซต์ www.carpas.co.th (หรือพนักงานของบริษัททุกคน ผู้บริหารของบริษัท ผู้ผลิตสินค้า บริษัทสาขา บริษัทร่วมทุนตลอดจนหุ้นส่วนทางกฏหมาย) ต้องรับผิดชอบต่อการเรียกร้องค่าเสียหายรวมถึงค่าใช้จ่ายของทนายความที่เกิดขึ้นด้วย
• การเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่น ทางเว็บไซต์ www.carpas.co.th อาจมีการเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและเพื่อความสะดวกของลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งาน ทางเว็บไซต์ www.carpas.co.th มิได้ให้การรับรองหรือยืนยันความถูกต้อง ในเนื้อหาของเว็บไซต์เหล่านั้น และมิได้สื่อโดยนัยว่า ทางเว็บไซต์ www.carpas.co.th ให้การรับรองหรือแนะนําข้อมูลในเว็บไซต์เหล่านั้น การเข้าเยี่ยมชมหรือใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์อื่นๆนั้นถือเป็นหน้าที่ของ ลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานในการพิจารณาวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล ในเว็บไซต์เหล่านั้นด้วยตนเอง การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์อื่นๆนั้น เราขอแนะนําให้ลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานอ่านรายละเอียดข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการ ตลอดจนนโยบายการรักษาความปลอดภัย ของเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงนั้น ก่อนเข้าใช้เว็บไซต์ดังกล่าว และเราไม่อนุญาตให้ลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานทำลิงค์จาก เว็บไซต์ของตนเองเพื่อเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์เหล่านั้นโดยมิได้มีการขออนุญาต จากทางเว็บไซต์ www.carpas.co.th เป็นลายลักษณ์อักษรเสียก่อน กรุณาติดต่อเราหากลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานต้องการทําลิงค์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งาน
• การยกเลิกอันเกิดจากความผิดพลาด ทางเว็บไซต์ www.carpas.co.th มีสิทธิ์อย่างเต็มที่ที่จะยกเลิกคําสั่งซื้อได้ทุกเมื่อ หากความผิดพลาดนั้นเกิดมาจากความผิดพลาด ในการพิมพ์หรือความผิดพลาดที่มิได้มีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า อันเป็นผลมาจากสินค้าในเว็บไซต์ที่มีการลงรายการไว้ไม่ถูกต้อง (ไม่ว่าจะเป็นการลงราคาผิด หรือ ลงรายละเอียดที่ผิด เป็นต้น) ในกรณีที่รายการสั่งซื้อนั้นเกิดการยกเลิกขึ้นและเราได้รับการชําระเงินสําหรับคําสั่งซื้อนั้นเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว ทางเว็บไซต์ www.carpas.co.th จะทําการคืนเงินให้ท่านเต็มจํานวนราคาสินค้า
• การใช้งานอันไม่เหมาะสม ลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานตกลงใจที่จะไม่ใช้เว็บไซต์ www.carpas.co.th เพื่อเป็นการส่งหรือประกาศถึงเนื้อหาหรือข้อมูลใดๆอันเป็นการขัดต่อกฎหมาย ข่มขู่ รังควาน เจตนาทําลายชื่อเสียง หมิ่นประมาท หยาบคาย คุกคาม มุ่งร้าย ลามกอนาจาร ส่อไปในทางเรื่องเพศ ก้าวร้าว ทําให้ผู้อื่นไม่พอใจ ดูหมิ่นศาสนา รวมถึงรูปภาพลามกหรือผิดกฎหมายใดๆที่บังคับใช้ ด้วยเหตุนี้หากลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานได้ทําการส่งหรือประกาศถึงเนื้อหา หรือ ข้อความ รวมถึง รูปภาพใดๆที่กล่าวมาแล้วนั้น และ ทางเว็บไซต์ www.carpas.co.th หรือ บุคคลที่สามใดๆก็ตาม ได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจาก เนื้อหาหรือข้อมูลของลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ตามที่ ลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหาย รวมถึงหนี้สิน ค่าเสียหายและ รายจ่ายอันเกิดขึ้นจากการที่ทางเว็บไซต์ www.carpas.co.th หรือ บุคคลที่สามต้องสูญเสียไป
• มาตรการคุ้มครองและรักษาความลับของผู้ร้องเรียน เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้ร้องเรียนและผู้ให้ข้อมูลที่กระทําโดยเจตนาสุจริต ทางเว็บไซต์ www.carpas.co.th จะปกปิดชื่อ ที่อยู่ หรือข้อมูลใดๆ ที่สามารถระบุตัวผู้ร้องเรียนหรือผู้ให้ข้อมูลได้ และเก็บรักษาข้อมูลของผู้ร้องเรียนและผู้ให้ข้อมูลไว้เป็นความลับ โดยจํากัด เฉพาะผู้รับผิดชอบในการดําเนินการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนเท่านั้นที่จะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ ทั้งนี้ ผู้ได้รับข้อมูลจากการปฏิบัติหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องร้องเรียน มีหน้าที่เก็บรักษาข้อมูล ข้อร้องเรียน และเอกสารหลักฐานของผู้ร้องเรียนและผู้ให้ข้อมูลไว้เป็นความลับ ห้ามเปิดเผยข้อมูลแก่บุคคลอื่นที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เว้นแต่เป็นการเปิดเผยตามหน้าที่ที่กฎหมายกําหนด
• การดําเนินการเมื่อได้รับเรื่องร้องเรียน เว็บไซต์ www.carpas.co.th จะเป็นผู้พิจารณาตรวจสอบเรื่องร้องเรียนที่ได้รับทันที และแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดําเนินการสอบสวน ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนและดําเนินการแก้ไขอย่างเหมาะสม เว็บไซต์ www.carpas.co.th จะติดตามผลความคืบหน้า เป็นระยะๆ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะแจ้งผลการดําเนินงานภายในระยะเวลาที่เหมาะสมให้แก่ผู้ร้องเรียนทราบ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
• ช่องทางการรับเรื่องร้องเรียน ผู้ร้องเรียนจะต้องระบุรายละเอียดของเรื่องที่จะต้องเรียน พร้อมชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ และส่งมายังเว็บไซต์ www.carpas.co.th ได้ 3 ช่องทาง คือ
• ช่องทางที่ 1 จดหมายทางไปรษณีย์ ท่านสามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนทางไปรษณีย์ โดยจ่าหน้าซองถึงบริษัท คาร์ พาร์ท แอนด์ ซัพพลาย จำกัด และส่งมาได้ที่ 393 หมู่ที่ 4 นิคมบางปู ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 10280
• ช่องทางที่ 2 จดหมายทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) E-mail address: contact@carpas.co.th
• ช่องทางที่ 3 ติดต่อผ่าน www.carpas.co.th โดยสามารถระบุรายละเอียดในแบบฟอร์มตามลิงค์ต่อไปนี้ http://www.carpas.co.th/contact-us
• ช่องทางการระงับข้อพิพาทโดยกลไกภายนอก หากกระบวนการแก้ไขข้อพิพาทโดยผู้ประกอบการไม่เป็นที่พอใจของลูกค้า ลูกค้าสามารถใช้ช่องทางภายนอกที่ลูกค้าสามารถดําเนินการระงับ ข้อพิพาทได้โดยติดต่อมายัง สํานักพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ Department of Business Development ที่อยู่: 44/100 Nonthaburi Road 1 Bangkrasor Muang Nonthaburi 11000 แผนที่: http://www.dbd.go.th/mainsite/index.php?id=64&L=1 โทร: (+66) 025475959-61 E-mail: e-commerce@dbd.go.th การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวสำหรับคุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ สำหรับลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานได้โดยเฉพาะ และหากลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าของคุกกี้สามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่า" สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สามารถอ่านได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและประกาศความเป็นส่วนตัว
• นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและประกาศความเป็นส่วนตัว คาร์ พาร์ท แอนด์ ซัพพลาย จำกัด (“บริษัท”) มีความมุ่งมั่นในการดำเนินการ ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ 2562 บริษัทจึงได้กำหนดนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและประกาศความเป็นส่วนตัวให้สอดคล้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลากหลายกลุ่ม โดยท่านสามารถตรวจสอบวัตถุประสงค์และรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงช่องทางการติดต่อของแต่ละฉบับได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
• นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
• ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า (Customer Notice)
• ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับพันธมิตรทางธุรกิจ (Business Partner Notice)
• ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับการใช้คุกกี้ (Cookies Notice)
• ช่องทางการติดต่อ
• ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่ออีเมล data.privacy@carpas.co.th
• ในกรณีที่ท่านต้องการใช้สิทธิถอนความยินยอม โปรดติดต่ออีเมล dpo@carpas.co.th ทั้งนี้ ถ้าหากบริษัทไม่ได้รับการติดต่อจากท่านเพื่อขอถอนความยินยอมในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้ถือว่าท่านได้ให้ความยินยอมตามที่ปรากฏในประกาศความเป็นส่วนตัวของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของแต่ละกลุ่มที่แนบมากับนโยบายและประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
• นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คาร์ พาร์ท แอนด์ ซัพพลาย จำกัด
• หลักการและเหตุผล คาร์ พาร์ท แอนด์ ซัพพลาย จำกัด (“บริษัท”) มีความตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลโดยเป็นไปตามหลักของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 บริษัทจึงได้ จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตาม หลักของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึง กำหนดขั้นตอนการปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล การบริหารจัดการ และการ ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
• ขอบเขตการบังคับใช้ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ฉบับนี้ มีขอบเขตครอบคลุม การเก็บรวบรวม การใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่ดำเนินการโดย บริษัท รวมถึงบุคคลใดๆ ที่ล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัท จะต้องปฏิบัติตามนโยบาย การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และตามกรอบที่กฎหมายกำหนดและนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคลฉบับนี้มีขอบเขตการใช้ร่วมกันทั้งบริษัท สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เก็บรวบรวมไว้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บังคับใช้ ให้บริษัทสามารถเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม โดยใช้หรือ เปิดเผย ข้อมูลและการดำเนินการอื่นที่ไม่ใช่การเก็บรวบรวม ให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
• คำนิยาม
• ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือ ทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
• เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
• ความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การธำรงไว้ซึ่งความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมในการใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล
• ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (Sensitive Data) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติ อาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือ ข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน
• ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
• ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูล ส่วนบุคคล
• การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
• บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างมีขอบเขตจำกัดเท่าที่จำเป็น ภายใต้วัตถุประสงค์อัน ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และการจัดเก็บข้อมูลบริษัทจะจัดเก็บจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยตรง ให้เจ้าของข้อมูลทราบหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล เว้นแต่ ได้รับการยกเว้น การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรา 24 และมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล
• หากบริษัทต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว บริษัทจะต้องขอความยินยอม โดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน เว้นแต่ได้รับการยกเว้นการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
• บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกระบุไว้ในแบบฟอร์ม คำร้อง หรือเอกสารคำขอ ที่เป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งที่เป็นเอกสารหรือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยพนักงานที่ดำเนินการ รับทราบและปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ ระเบียบ นโยบายและขั้นตอนการปฏิบัติ ของบริษัท โดยข้อมูล ดังกล่าวจะถูกตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วนของข้อมูล และปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ
• การใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
• บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกภายใต้ ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยเป็นไปตามพระราชบัญญัติตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562
• หากบริษัทได้ว่าจ้างบุคคลหรือหน่วยงานอื่น เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การส่งข้อมูลให้หน่วยงานภายนอกดำเนินวิเคราะห์ทางการตลาด เป็นต้น บริษัทจะมีมาตรการในการ เก็บรักษาความลับ และรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และมีข้อกำหนดไม่ให้น ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปใช้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ของบริษัท โดยให้มีการลงนามในบันทึก ข้อตกลงการไม่เปิดเผยข้อมูลทุกครั้งก่อนเริ่มดำเนินการเก็บรวบรวม เข้าถึง และใช้ข้อมูลของบริษัท
• ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
• บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเกี่ยวกับการเก็บรักษาข้อมูล ส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ
• ในกรณีที่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ บริษัทจะมีการกำหนดนโยบายระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลตามความจำเป็นที่เหมาะสม ในการปฏิบัติงานของบริษัทและเมื่อพ้นระยะเวลาการเก็บรักษาดังกล่าวบริษัทจะดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคล (Anonymization)
• สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มั่นใจว่าสามารถใช้สิทธิที่มีอยู่ตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้ ดังนี้
• สิทธิในการขอดูและคัดลอกข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทให้แก่เจ้ าของข้อมูล ส่วนบุคคลได้
• สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอด ระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับบริษัท
• สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไข ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือเพิ่มเติมข้อมูลให้สมบูรณ์
• สิทธิในการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้บริษัท ทำการลบหรือทำลายข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่ สามารถระบุตัวตน (Anonymization)
• สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
• สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูล ส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้กับบริษัท ไปยังผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือ ตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง
• สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการคัดค้าน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะจัดให้มีช่องทางเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อมายังบริษัท ผ่านช่องทางการติดต่อ ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ ในกรณีที่ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัท กรรมการบริษัท กรรมการบริหาร ผู้อำนวยการ หรือ พนักงานของบริษัท ในกรณีที่บริษัทฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศอื่นที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
• การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ การแก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลโดยมิชอบ ซึ่งครอบคลุมถึง มาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพ
• การปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง หรือ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่มีผลกระทบกับนโยบายอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบที่หน้าเว็บไซต์ ของบริษัท และจะแจ้งให้ทราบในช่องทางอื่นๆ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้เพื่อความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ในการให้บริการ บริษัทจะดำเนินการแจ้งวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายให้ทราบอย่างชัดเจน
• ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้าของคาร์ พาร์ท แอนด์ ซัพพลาย จำกัด คาร์ พาร์ท แอนด์ ซัพพลาย จำกัด (“บริษัท”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกค้า (“ท่าน”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านจะได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายความเป็น ส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย ข้อมูล (“การประมวลผล”) รวมตลอดถึงการลบและทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคลกำหนด ดังนี้
• วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
• เพื่อดำเนินการสมัครลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานของบริษัท ได้แก่ การสมัครลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานวารสาร
• เพื่อสมัครลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานและแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์กิจกรรมโปรโมชั่น รวมถึงแจ้งผลประโยชน์ให้แก่ท่าน
• ทำการตลาดโดยตรง รวมถึงการทำการตลาดออนไลน์
• เพื่อดำเนินการสั่งซื้อสินค้า รวมไปถึงการดำเนินติดตามการชำระเงิน ตามกำหนดระยะเวลาการชำระ
• เพื่อเสนอขายสินค้า รวมถึงให้บริการหลังการขายต่างๆอันเป็นประโยชน์ต่อทางท่าน เช่น การขนส่งสินค้า การรับประกันสินค้า การส่งซ่อมสินค้า
• เพื่อการจัดทำหลักฐานการชำระเงินตามกฎหมาย ได้แก่ การออกใบกำกับภาษี
• เพื่อติดต่อประสานงานหรือดำเนินการติดต่อบุคคลภายในบริษัท รวมถึงการติดต่อกับบริษัท
• เพื่อให้บริการสอบถามข้อมูลต่างแก่ท่าน เช่น การประเมินความพอใจ
• ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
• ข้อมูลของท่าน ได้แก่ ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน
• ข้อมูลการติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ช่องทางการติดต่อออนไลน์ เช่น อีเมล เป็นต้น
• ข้อมูลสัญญาการซื้อขาย ได้แก่ เลขสัญญา เอกสารมอบอำนาจ เอกสารการชำระเงิน หนังสือรับรอง บริษัท ใบ ภพ.20 เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
• ข้อมูลผู้ดำเนินการแทนบริษัท ได้แก่ ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชนของผู้ดำเนินการแทน
• รูปถ่ายและภาพเคลื่อนไหว ทั้งนี้ หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องใช้เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือเพื่อเข้าท สัญญาแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ได้อย่างสมบูรณ์
• ข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษ
• บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน เพื่อใช้งาน ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทแจ้งไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
• บริษัทอาจต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้ ข้อมูลสุขภาพ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินการจัดทำสินค้าบางประเภท เช่น การวัดสุขภาพเท้า เพื่อการจัดทำแผ่นรองเท้า เป็นต้น
• ในกรณีที่จำเป็น บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน โดยรับความยินยอมจากทาน ก่อนหรือขณะประมวลผลเสมอ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทจะ ใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน
• ฐานทางกฎหมาย บริษัทจะพิจารณากำหนดฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ฐานทางกฎหมายที่บริษัท ใช้เป็นหลักในการอ้างอิง ได้แก่ ฐานทางกฎหมาย และรายละเอียด
• เพื่อปฏิบัติตามสัญญา: เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการที่จำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน และ/หรือเพื่อให้สิทธิประโยชน์แก่ท่านตามสัญญา
• เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย: เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้ (เช่น การขอรับหลักฐานเพื่อพิสูจน์ตัวตนของลูกค้า สมาชิก และผู้ใช้งานเพื่อเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ของบริษัทตามกฎหมาย)
• เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ บริษัทและของบุคคลอื่น (เช่น การตรวจสอบและป้องกันการทุจริตฉ้อฉล)
• ความยินยอม: เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม
• การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
• ในกรณีที่บริษัทเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของท่าน โดยท่านมี สิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ให้ไว้กับบริษัทได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบ ต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปก่อนหน้า
• หากท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทหรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้บริษัทไม่ สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
• ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
• บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูล ส่วนบุคคลแต่ละประเภท บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของ การเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมาย เป็นต้น)
• บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาที่เป็นท่านของบริษัท เพื่อปฏิบัติตามสัญญา และตามระยะเวลาที่จำเป็นหลังจากสิ้นสุดการเป็นลูกค้าของบริษัทแล้ว
• กรณีที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วน บุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอมและบริษัทดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้น แล้ว อย่างไรก็ดีบริษัทจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่าน เคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้บริษัทสามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคต
• บริษัทจัดให้มีกระบวนการการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนด ระยะเวลาการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
• การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
• บริษัทเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับพันธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่ บริษัทขนส่ง เพื่อ ดำเนินการส่งสินค้าให้ท่าน
• บริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
• การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ บริษัทไม่มีนโยบายในการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
• มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
• บริษัทนำมาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วน บุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ของกรรมการและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
• บริษัทจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจะจัด ให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มี ประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
• สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
• ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สรุปดังนี้
• สิทธิในการขอดูและคัดลอกข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้บริษัท ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล ที่ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
• สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมใน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอด ระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับบริษัท
• สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้บริษัท แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือเพิ่มเติมข้อมูลให้สมบูรณ์
• สิทธิในการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้บริษัทท การลบหรือทำลายข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่ สามารถระบุตัวตน (Anonymization)
• สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
• สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วน บุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้กับบริษัท ไปยังผู้ควบคุมข้อมูล ส่วนบุคคลรายอื่น หรือ ตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง
• สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการคัดค้าน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะจัดให้มีช่องทางเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อมายังบริษัท ผ่านช่องทางการติดต่อ ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ ในกรณีที่บริษัทปฏิเสธค ร้องขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ ทั้งนี้ บริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่ บริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าว ทั้งนี้เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
• หากท่านต้องการยื่นคำขอเพื่อใช้สิทธิใดตามที่ปรากฏในประกาศฉบับนี้ สามารถยื่นขอใช้สิทธิของ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทางอีเมล dpo@carpas.co.th
• การแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว
บริษัทจะประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่ผ่านทางเว็บไซต์นี้ ซึ่งท่านควรเข้ามาตรวจสอบความ เปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นครั้งคราว โดยประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ ทันทีในวันที่ประกาศ